วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

กระบวนการสร้างCAI


หลังจากที่ได้ศึกษา รวบรวมข้อมูลวางแผน และออกแบบสื่อ CAI เรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนการสร้าง CAI ในรูปแบบต่างๆ โดยการสร้างผลงานควรประกอบด้วยกระบวนการหลักๆดังต่อไปนี้
1. การนำเข้าสู่บทเรียน เป็นการแสดงหัวข้อทั้งหมดที่ผู้เรียนจะได้ศึกษาในไฟล์ผลงาน โดยอาจจะมีการอธิบายวิธีการใช้ไฟล์งาน และมีการสร้างเอฟเฟ็กต์ให้ปรากฏในขณะที่เปิดไฟล์งานขึ้นมาก็ได้
2. การเสนอเนื้อหา เป็นขั้นตอนสำคัญในการนำเสนอข้อมูลเนื้อหาบทเรียนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถศึกษา ทบทวน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
3. การถาม – การตอบ / ทำแบบสอบถาม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนได้ทบทวนเนื้อหาที่ได้อธิบายไปทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นการวิเคราะห์ถึงความเข้าใจของผู้เรียนได้อีกด้วย โดยอาจจัดทำเป็นเป็นลักษณะของการโต้ตอบในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้เมาส์คลิกเพื่อเลือกคำตอบ หรือการพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไปในช่องข้อความ เป็นต้น


4. การตรวจคำตอบ เมื่อผู้เรียนได้ทำแบบทดสอบเรียบร้อยแล้วก็จะมีการตรวจสอบคำตอบว่าถูกต้องตรงกับที่เฉลยหรือไม่ ซึ่งหากถูกต้องก็แสดงว่าผู้เรียนมีความเข้าใจเนื้อหาที่ได้มีการศึกษาไป
5. การแสดงผลคำตอบ เพื่อให้ผู้ที่ทำแบบทดสอบ ผิด สามรถเข้าใจถึงคำตอบที่ถูกต้อง ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้เกิดความเข้าใจที่กระจ่างชัดมากยิ่งขึ้น
6. การวัดและประเมินผล เป็นการวิเคราะห์ถึงกระบวนความรู้ที่ผู้เรียนได้รับทำให้สามารถบ่งบอกได้ว่าผู้เรียนมีความเข้าใจเนื้อหาของบทเรียนมากน้อยเพียงไร ซึ่งการวัดประเมินผลส่วนมากจะจัดทำอยู่ในรูปแบบของเกรดหรือเปอร์เซ็นต์

ขั้นตอนการออกแบบผลงาน CAI



หากมีการออกแบบผลงาน CAI และการวางแผนที่ดีไว้ล่วงหน้า ก็จะช่วยลดระยะเวลาในการสร้างผลงาน และผลงานที่ได้ก็จะมีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น สำหรับขั้นตอนการออกแบบแบ่งได้เป็นข้อๆ ดังนี้

1. ขั้นตอนการศึกษาและรวบรวมข้อมูล ต้องกำหนดหัวข้อเรื่อง กลุ่มของผู้เรียนรวมทั้งขอบเขตของงงานก่อนว่าต้องนำเสนอเนื้อหาในลักษณะไหน เพื่อไม่ให้ผลงาน มีเนื้อหามากหรือน้อยเกินไป และควรเตรียมวัตถุดิบ ไพล์งานต่างๆที่จะนำมาสร้างประกอบเป็นผลงาน CAI รวมทั้งพิจารณาถึงการโต้ตอบด้วย
2. ขั้นตอนการวางแผนและออกแบบ เป็นการเลือกรูปแบบของสื่อ CAI ว่าต้องการสร้างผลงานขึ้นมาในลักษณะใด โดยพิจารณาได้จาการสร้างสื่อ CAI ทั้ง 6 รูปแบบเมื่อพิจารณาถึงรูปแบบที่ต้องการเรียบร้อยแล้วจึงวางแผนและออกแบบการนำเสนอเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเข้า

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

พื้นฐานการสร้างสื่อการเรียนการสอน CAI


เราจะมารู้จักกับพื้นฐานการสร้างสื่อการเรียนการสอน CAI ก่อนว่ามีรูปแบบการทำงานอย่างไร โดยในที่นี้จะอธิบายถึงรูปแบบ และขั้นตอนการสร้าง CAI โดยมีรายละเอียดดังนี้
รูปแบบสื่อการเรียนการสอน
การสร้าง CAI สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการสร้างบทเรียนประกอบการเรียน จำลองสถานการณ์ต่างๆ สร้างเกม หรือจัดทำเป็น CD Training เป็นต้น โดยสามารถแบ่งรูปแบบการสร้างออกเป็น 6 รูปแบบดังนี้
1. แบบผู้ช่วยสอน ( Tutorials Instruction ) เป็นการสอนเนื้อหาใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เรียนสามารถ
ศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง โดยนำเสนอเนื้อหาออกเป็นหมวดย่อยๆและอาจมีการทำแบบทดสอบ วัดประเมิน
ผลด้วยก็ได้
2. แบบฝึกฝนทบทวนและปฏิบัติ ( Drill and Practice ) จะไม่มีการนำเสนอในส่วนของเนื้อหาความรู้
แต่จะเป็นการผสมผสานความรู้ที่ได้มาสร้างเป็นโจทย์ เพื่อให้ผู้เรียนได้สามารถทำแบบฝึกหัดทบทวนจนเกิด
ทักษะความเข้าใจและความชำนาญมากยิ่งขึ้น
3. แบบแก้ปัญหา ( Problem Solving ) เน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกกระบวนการทางความคิด การตัดสินใจแก้
ปัญ
หาในเรื่องต่างๆ เพื่อจะได้เรียนรู้ถึงทางออก กลยุทธ์ รู้จักวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
4. แบบจำลองสถานการณ์ ( Simulation ) เป็นการจำลองสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจมีอันตราย ก่อให้เกิด
ความเสียหายต่อชีวิต หรือมีค่าใช้จ่ายสูงมานำเสนอเนื้อหาเป็นบทเรียนให้กับผู้เรียน อาจมีการใช้ระบบมัลติมีเดียโดยการนำไฟล์วีดีโอหรือภาพแอนิเมชันมาใช้งานเพื่อให้เกิดความสมจริงมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนสามารถศึกษา
วิเคราะห์สำรวจข้อมูลทดลองหาข้อสรุปตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้
6. แบบเกมการศึกษา ( Educational Game ) เน้นให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาความคิดโดยอาศัยการเล่น
เกมในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ชนะหรือได้คะแนนสูงสุด โดยอาจทดสอบเล่นคนเดียว เล่นประลองฝีมือกับคู่แข่งหรือประลองฝีมือกับคอมพิวเตอร์ก็ได้



ลักษณะของ CAI



CAI คือ การนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาสร้างเป็นบทเรียนเพื่อใช้ประกอบการเรียนในวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิชาภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และวิชาทางด้านวิศวกรรม ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนสมารถศึกษา ทบทวน เพิ่มพูนความรู้จากการเรียนได้ ไม่เพียงแต่ใช้ในการศึกษาเท่านั้น หากยังสามารถจำลองสถานการณ์ต่างๆ ที่เสี่ยงอันตรายหรือมีค่าใช้จ่ายสูงมานำเสนอเป็นบทเรียนให้กับผู้เรียนได้อีกด้วย และถ้าต้องการความเพลิดเพลินก็สามารถสร้าง CAI ให้กลายเป็นเกมได้เช่นกัน เช่น เกมคำนวณเลข เกมสอนคำศัพท์ เกมจับคู่ เกมจับผิดภาพ เป็นต้น การสร้างงาน CAI จะเป็นลักษณะของงานมัลติมีเดีย คือ สามารถนำสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ เสียง หรือวีดีโอ เข้ามาผสมผสานสร้างเป็นผลงานได้อย่างหลากหลาย รูปแบบการทำงานดังกล่าวจึงช่วยดึงดูดความสนใจให้กับผู้เรียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถสร้างการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับแบบทดสอบ และประเมินผลการเรียนของแต่ละคน หรือนำผลงานที่ได้ไปสร้างเป็นเว็บเพจเพื่อรองรับต่อการทำธุรกิจบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตก็ได้

ความหมายของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI

ความหมายของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction) หรือ ซีเอไอ (CAI) มีผู้สรุปความหมายไว้คล้ายคลึงกันหลายความหมาย ดังต่อไปนี้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนหรือโปรแกรมช่วยสอน คือสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนอันหนึ่ง CAI คล้ายกับสื่อการสอนอื่น ๆ เช่น วิดีโอช่วยสอน บัตรคำช่วยสอน โปสเตอร์ แต่คอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะดีกว่าตรงที่ตัวสื่อการสอน ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์นั้น สามารถโต้ตอบกับนักเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับคำสั่งเพื่อมาปฏิบัติ ตอบคำถามหรือไม่เช่นนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะเป็นฝ่ายป้อนคำถาม (นัยนา เอกบูรณวัฒน์, 2539)คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI : ComputerAssisteInstruction) หมายถึง การประยุกต์นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเรียนการสอน โดยมีการพัฒนาโปรแกรมขึ้นเพื่อนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเสนอแบบติวเตอร์ (Tutorial) แบบจำลองสถานการณ์ (Simulations) หรือแบบการแก้ไขปัญหา (Problem Solving) เป็นต้น การเสนอเนื้อหาดังกล่าวเป็นการเสนอโดยตรงไปยังผู้เรียนผ่านทางจอภาพหรือแป้นพิมพ์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วม วัสดุทางการสอนคือโปรแกรมหรือ Courseware ซึ่งปกติจะถูกจัดเก็บไว้ในแผ่นดิสก์หรือหน่วยความจำของเครื่องพร้อมที่จะเรียกใช้ได้ตลอดเวลา การเรียนในลักษณะนี้ ในบางครั้งผู้เรียนจะต้องโต้ตอบ หรือตอบคำถามเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยการพิมพ์ การตอบคำถามจะถูกประเมินโดยคอมพิวเตอร์ และจะเสนอแนะขั้นตอนหรือระดับในการเรียนขั้นต่อ ๆ ไป กระบวนการเหล่านี้เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์ (ศิริชัย สงวนแก้ว, 2534)คอมพิวเตอร์ช่วยสอนหรื CAI คือ การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนโดยใช้โปรแกรมการเรียน การเรียนการสอนที่ผ่านคอมพิวเตอร์ประเภทใดก็ตาม กล่าวได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนหรือ CAI มีคำที่ใช้ในความหมายเดียวกันกับ CAI ได้แก่ Computer-Assisted Learning (CAL) , Computer-aided Instruction (CaI) , Computer-aided Learning (CaL) เป็นต้น (Hannafin & Peck, 1988)คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือบทเรียนซีเอไอ (Computer-Assisted Instruction; Computer-Aided Instruction : CAI) คือ การจัดโปรแกรมเพื่อการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อช่วยถ่ายโยงเนื้อหาความรู้ไปสู่ผู้เรียน และปัจจุบันได้มีการบัญญัติศัพท์ที่ใช้เรียกสื่อชนิดนี้ว่า“คอมพิวเตอร์ช่วยการสอน” (วุฒิชัย ประสารสอน, 2543)จากความดังกล่าว สามารถสรุปความหมายของ “คอมพิวเตอร์ช่วยสอน” หรือ CAI คือ การนำคอมพิวเตอร์มาเป็นเครื่องมือสร้างให้เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้เรียนนำไปเรียนด้วยตนเองและเกิดการเรียนรู้ ในโปรแกรมประกอบไปด้วย เนื้อหาวิชา แบบฝึกหัด แบบทดสอบ ลักษณะของการนำเสนอ อาจมีทั้งตัวหนังสือ ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว สีหรือเสียง เพื่อดึงดูดให้ผู้เรียนเกิดความสนใจมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการแสดงผลการเรียนให้ทราบทันทีด้วยข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) แก่ผู้เรียน และยังมีการจัดลำดับวิธีการสอนหรือกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละคน ทั้งนี้จะต้องมีการวางแผนการในการผลิตอย่างเป็นระบบในการนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่แตกต่างกันคำภาษาอังกฤษที่ใช้เรียก คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ได้แก่ Computer Assisted Instruction (CAI), Computer Aided Instruction (CAI), Computer Assisted Learning (CAL), Computer Aided Learning (CAL), Computer Based Instruction (CBI), Computer Based Training (CBT), Computer Administered Education (CAE) , Computer Aided Teaching (CAT) แต่คำที่นิยมใช้ทั่วไปในปัจจุบันได้แก่ Computer Assisted Instruction หรือ CAIนอกจากนั้น คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเองยังมีลักษณะที่เรียกว่า “บทเรียนสำเร็จรูป”แต่เป็นบทเรียนสำเร็จรูปโดยการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางแทนสิ่งพิมพ์หรือสื่อประเภทต่าง ๆ ทำให้บทเรียนสำเร็จรูปในคอมพิวเตอร์มีศักยภาพเหนือกว่าบทเรียนสำเร็จรูปในรูปแบบอื่น ๆ ทั้งหมดโดยเฉพาะมีความสามารถที่เกือบจะแทนครูที่เป็นมนุษย์ได้มีขั้นตอนการสร้างและการพัฒนาบทเรียนเช่นเดียวกับบทเรียนสำเร็จรูปประเภทอื่น ๆ (ไพโรจน์ ตีรณธนากุล, 2528)จากลักษณะของสื่อที่เป็น “บทเรียนสำเร็จรูป” และสื่อที่เป็น “คอมพิวเตอร์ช่วยสอน” จึงสามารถสรุปเป็นความหมายของ “บทเรียนสำเร็จรูปคอมพิวเตอร์การสอน” (ComputerInstruction Package :CI Package ) ว่าหมายถึง บทเรียนสำเร็จรูปที่สร้างขึ้นในลักษณะซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Package Software) นำไปสอน (Instruction) เนื้อหาใหม่ โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนบทเรียนหรือนำเสนอบทเรียน ผู้เรียนสามารถเรียนด้วยตนเองได้ตามระดับความสามารถของตนเอง ในบทเรียนมีแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน จุดเด่นที่สำคัญของบทเรียน คือ การนำเสนอเนื้อหาในลักษณะหลายสื่อ (Multimedia) ได้แก่ประเภท ข้อความ (Text) รูปภาพ (Image) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) ภาพวิดีโอ (Video) และเสียง (Audio) โดยที่ผู้เรียนจะมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) กับบทเรียนโดยผ่านเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ได้ตลอดเวลา